เนื่องมาจากว่า Apple Inc ได้ทำการฉลองครบรอบ 5 ปี App Store มีการแจกแอพระดับพรีเมี่ยมหลายตัว หนึ่งในนั้นคือ Traktor DJ for iOS ที่ปกติมีราคาถึง $20 แพงที่สุดที่นำมาแจกในรอบนี้ครับ เลยขอนำข้อเขียนที่เพิ่งตีพิมพ์ลงวารสาร The Absolute Sound & Stage มาแปะไว้ ณ ที่นี้


Review: Traktor DJ บน iPad และ iPhone การทวงบัลลังค์ของราชัน

ตีพิมพ์ครั้งแรก The Absolute Sound & Stage

หากคุณผู้อ่านติดตาม Sound & Stage มานานระดับเหนียวแน่นมาแต่แรก คงน่าจะจำได้ว่า Sound & Stage มีคอลัมน์ที่ลงรายละเอียดของซอฟต์แวร์ดีเจที่ดีที่สุดในวันนั้นอย่าง Traktor DJ Studio 2 นับถึงตอนนี้คือประมาณ 10 ปีแล้ว ผู้เขียนยังจำอารมณ์ ความรู้สึก และรายละเอียดของการใช้ซอฟต์แวร์ตัวนั้นได้ราวกับเมื่อวาน และจะว่ากันไปแล้ว Native Instruments ผู้สร้าง Traktor นั้นก็มีประสบการณ์ในการสร้างสรรค์พัฒนาซอฟต์แวร์ดีเจมามากกว่่าทศวรรษแล้ว และเพิ่งจะปล่อยของบน iOS ไม่นานนี้เอง ตามหลัง iMaschine ปีเศษ โดยเริ่มปล่อยเวอร์ชันบน iPad ($20) และตามมาด้วย iPhone ($5) ในคราวแรก ผู้เขียนลังเลใจที่จะซื้อมาใช้ เพราะว่ามีซอฟต์แวร์ DJ ที่ซื้อไว้หลายตัว แต่เล่นไว้สนุกๆ แป๊ปๆ ก็เลิกเล่น ไม่ได้สนใจอีก บางตัวอย่าง Djay ผู้เขียนถึงกับซื้อมันทุก Platform เพียงเพราะคิดจะใช้มันเป็น Music Player และเห็นว่าจ่ายไปทั้งหมดรวมกันประมาณ 1000 บาท ซึ่งไม่ได้แพงกว่า Traktor DJ Studio สมัยสิบปีก่อนที่ราคาประมาณ 8000 บาทในวันนั้น

Traktor DJ ipad

แต่เมื่อดูวิดีโอสาธิต จึงพบว่า Traktor DJ บน iDevice นั้นจงใจพัฒนาเพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งอื่นๆ และด้วยการคิดอย่างละเอียดในการใช้ประโยชน์จากจอสัมผัสสูงสุด ตัว UI ยังคงแนวทางเดิมมาตั้งแต่แรก คือการเน้นแสดงเวฟฟอร์มสวยงามทันสมัย ผู้เขียนจึงไม่ลังเลที่จะนำมาทดลองใช้ทันที

ย้อนเวลาคืนความทรงจำ

หลังจากเปิดมาครั้งแรก บางสิ่งบางอย่างมันบอกว่านี่คือสิ่งที่คุ้นเคยมาก่อน ใช่แล้วครับ Traktor DJ บน iOS มีพื้นฐานเดียวกับ Traktor DJ Studio เมื่อสิบปีที่แล้วเลยทีเดียว จอแสดงเวฟฟอร์มขนาดใหญ่ชัด ออกแบบมาให้เราใช้นิ้วควบคุมได้ตรงๆ เป็นส่วนที่ผู้เขียนชอบมากที่สุด เพราะเราสามารถวางนิ้วสำหรับกำหนดระยะลูป บีบนิ้วสองนิ้วเพื่อร่นระยะลูป ทีเด็ดอีกอย่างคือ Freeze Mode ที่เราสามารถเคาะจังหวะเล่นได้เหมือน Drum Pads เลยครับ

การวาง Cue Points ก็ง่ายแสนง่าย ด้วยการออกแบบการเล่นกับจอแบบนี้

รายละเอียดทางเอฟเฟกต์

ความน่าประทับใจในส่วนนี้คือการที่ทาง NI แถมเอฟเฟกต์ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งอีกนัยหนึ่ง Traktor DJ บน iOS ไม่ได้มีการกั๊กเพื่อให้เราเกิดความรู้สึกว่าต้องไปเล่นเวอร์ชันใหญ่ เราสามารถนำ iPhone/iPad ไปใช้ในสถานการณ์จริงได้เลย (ถ้าไม่ติดเรื่อง Looking นะครับ)

เอฟเฟกต์ที่เป็น Signature อย่าง Beatmasher (นำบีทมาเรียงใหม่ เหมาะสำหรับจังหวะเบาๆ ไม่เร็วนัก) นั้นเล่นสนุกมากบนหน้าจอแบบทัชสกรีน ตัว Filter นี่ มีให้เราเลือกใช้ทั้งในโหมด FX และมี Master Filter แยกออกมาต่างหากเช่นเดียวกับ 3-Bands EQ และเอฟเฟกต์อื่นๆ ที่คุ้นเคยเช่น Delay, Reverb, Gater, Flanger

รายละเอียดอื่นๆ

อีกส่วนที่ผู้เขียนชอบมากคือการหมุน Master Tempo โดยใช้ Dial (เหมือน Click-Wheel บน iPod รุ่นแรก) ซึ่งเป็นการปรับระดับอย่างช้าๆ และรู้สึกเหมือนกับว่ามือของเรานั้นเอาจังหวะเรานั้นอยู่ ควบคุมติดมือเลยทีเดียว ยกความดีให้การจับบีทและการซิงค์อันชาญฉลาด หากเราหมุน Master Tempo ไปแค่ไหน เพลงก็ยังซิงค์อยู่เสมอ

ในขณะที่ยังมีอีก Feature ที่ผู้เขียนคาดไม่ถึงหรือไม่คิดว่าจะมีแต่ก็มีคือการ Record Mix ซึ่งก็นับว่าทำได้ประทับใจทุกอย่าง

ยังมีรายละเอียดน้อยๆ แสดงความเก๋าของผู้จัดทำ คือการทำลิสต์รายการที่คนเราจะค่อยๆ เรียนรู้ว่ามันทำงานอย่างไรบ้าง ทำให้เหนือกว่าโปรแกรมประเภทเดียวกันบนแพลตฟอร์มนี้ครับ

และที่สำคัญสำหรับผู้ใช้ Traktor Pro 2 อยู่แล้ว คือการที่เราสามารถใช้ Traktor DJ บน iOS (ตอนนี้ถ้าเอ่ยถึง Traktor DJ คือบน iOS เพราะบน Desktop จะเป็น Traktor Pro 2 รุ่นเดียว) เป็นเครื่องมือในการเตรียมเพลง เพลยลิสต์ให้กับ Traktor Pro 2 ได้ ผ่านการ Sync บน Dropbox แต่มีข้อจำกัดอยู่บ้างคือหากเราเล่นเพลงจาก iTunes Match มันก็จะไม่สนับสนุนการนำมาเล่นบน Traktor DJ อย่างเต็มที่ ซึ่งยังเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ครับ เพราะเพลงเหล่านั้นมันเก็บอยู่บน Cloud เราต้องโหลดเพลงที่ต้องการเล่นมาไว้ในเครื่องเสียก่อน ปัญหาเหล่านี้ก็จะหมดไป เช่นเดียวกับเพลงที่ติด DRM แม้จะมาจาก Apple ก็อาจติดปัญหาในเรื่องของการนำไป Sync เล่น Desktop เช่นกัน หากเข้าใจข้อจำกัดทั้งหมด เราก็สามารถใช้งานได้อย่างสบายๆ ครับ

ทิศทางถัดไปของ Traktor DJ คือสามารถพัฒนาต่อให้มี Features เหมือนกับ Traktor Pro 2 ได้ เช่นมี 4 Decks และมี Features ที่สนับสนุนการ Remix ให้มากขึ้น แต่ผู้เขียนค่อนข้างแน่ใจว่าทาง NI อาจพัฒนาไปมากกว่านี้อีกไม่มากนัก เพราะการใช้งานจะยุ่งยาก โดยเฉพาะการจัดการหน้าจอ และการที่ Product Line มันชนกัน ซึ่งมีกรณีเดียวคืออาจออก Traktor Pro บน iOS สำหรับผู้เล่นที่จริงจังระดับนั้นก็ได้ แต่ถ้านับถึงแค่ปัจจุบัน ผู้เขียนก็ยอมรับว่าชอบใจในสิ่ง Traktor DJ ทำได้ ณ วันนี้มากแล้ว โดยไม่ต้องไปเทียบกับสิ่งที่ผู้เขียนเคยใช้เมื่อสิบปีที่แล้วเลยก็ตาม