iKaossilator (iPhone/iPod Touch/iPad $19.99)

Music app จากผู้ผลิตที่เอาจริงกับด้านนี้มากอย่าง KORG ที่แค่เพียงพอพูดถึงชื่อ iKaossilator แล้วเราก็เดากันได้ทันทีว่ามันเป็น Music app แบบที่จะใช้ประโยชน์จากหน้าจอทัชสกรีนแบบเต็มๆ และตรงไปตรงมา ขณะที่ App ก่อนๆ ของ KORG ใช้การจำลองปุ่ม (Metaphor) บนหน้าจอสัมผัส

และก็ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวังครับ เพราะมันถูกแบบใหม่ให้เหมาะกับหน้าจอขนาดเล็กบนมือถือและใช้ประโยชน์จาก Visual Feedback ช่วยให้การสร้างสรรค์งานเพลงด้วยความสนุกและง่ายอย่างรวดเร็ว หลักการทำงานเบื้องต้นของ iKaosillator คือเครื่องดนตรีแบบ Phrase/Loop ที่พอเราเอามือแตะบนหน้าจอก็จะเกิดเสียง บางชิ้นอาจเป็นตำแหน่งโน้ต บางชิ้นอาจมาเป็นวลีเพลงหรือลูป ที่เราสามารถบันทึกเก็บไว้จนได้ดนตรีแบบเต็มที่มีเครื่องดนตรีสูงสุด 6 ชิ้น

การสัมผัสบนหน้าจอจะเป็นการเล่นเสียงในรูปแบบต่างๆ เช่น ถ้าเป็นเครื่องดนตรีที่เล่นท่วงทำนองอย่าง Lead synth แกน X จะเป็นระดับโน้ต ขวาสุดคือโน้ตในระดับเสียงสูงสุด แกน y คือเอฟเฟกต์เช่น Low Pass filter ดังนั้นหากเราสไลดนิ้วจากขวาไปซ้ายแล้วดันขึ้นมันจะเป็นการสไลด์เสียงลงต่ำพร้อมติดเอฟเฟกต์ที่ปลายเสียง อย่างนี้เป็นต้น กรณีที่เป็นวลีเพลงเช่น Piano Chords หรือ Drum Loop ก็จะมีวิธีการเล่นการควบคุมเหมือนกัน ต่างกันที่รายละเอียดนิดหน่อย เช่นกรณี Drum Loop ยิ่งเลื่อนนิ้วไปทางขวาสุดรายละเอียดของการตีกลองก็จะยิ่งซับซ้อนขึ้นไปจนถึงการ Fill in

เรายังสามารถเลือก Mode ของวลีเพลงที่เราจะเล่น การควบคุมอิสระผ่านจอสัมผัสทำให้เรามีวลีเพลงที่หลากหลายมากกว่าการใช้ลูปมาก ถ้าใครเล่น Abletone Live มาก่อน จะเล่นสนุกได้ทันทีโดยไม่ต้องศึกษาเพิ่มเติมมาก เพราะซีนเพลงที่เราทำเสร็จแล้ว เรายังสามารถเลือกเครื่องดนตรีบางชิ้นไปผสมกับซีนอื่นๆ ได้อีก KORG เรียกระบบนี้ว่า “Mix Play”

ที่ Feature หนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อ DJ Live Performace โดยเฉพาะ Flex Play ให้เราใช้นิ้วกดปุ่ม Tempo หรือ Loop Lenght ค้างไว้ตอนที่เรากำลังเล่นซีนอยู่ แล้วนิ้วของอีกมือนึงจะแตะบนหน้าจอเพื่อควบคุมจังหวะเพลง ไปจนถึง Fill in ได้เลย (ทั้ง 6 เครื่องดนตรีจะถูกควบคุมพร้อมกัน) เกิดซาวน์ที่เท่มากๆ

คุณภาพเสียงจากเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นใน iKaossilator นั้นเชื่อได้ในคุณภาพครับ เสียงมันไพเราะในระดับอาชีพ แม้ข้อจำกัดของฮาร์ดแวร์ทำให้ความละเอียดจะอยู่ที่ 16 บิต/44.1 kHz ก็ตาม เสียงที่ผู้เขียนชอบมากๆ คือเสียงจากเครื่องเป่าทองเหลืองเช่น Sax และเสียง Organ ไฟฟ้าที่ออกแบบมาล้ำๆ หน่อย (ไม่ใช่ที่เราคุ้นเคยในเพลงวินเทจร๊อค) ซึ่งจะเหมาะกับเพลงร่วมสมัย ดนตรีเต้นรำ ที่ปกติเครื่องดนตรีไฟฟ้าของ KORG จะมีชุดเสียงมาทางนี้อยู่แล้ว

ข้อจำกัดอย่างอื่นก็พอมีบ้างครับ เช่นการที่ KORG เลือกทำเป็นระบบปิดให้เราใช้แต่เสียงที่ติดมากับซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ 150 ณ ตอนนี้ ไม่สามารถอิมพอร์ทเข้าไปเองได้ หรือแม้แต่ซื้อเพิ่มซึ่งให้อารมณ์คล้ายๆ กับเครื่องดนตรีฮาร์ดแวร์ คาดหวังอยู่ลึกๆ ว่า KORG อาจค่อยๆ เพิ่มให้ตามวันเวลาที่อัพเกรด หรือมีระบบขายซาวน์แวร์เพิ่มเข้ามาในอนาคต ไม่อย่างนั้นแล้วก็อาจจะมีคู่แข่งลอกเลียนแบบได้ไม่ยากนัก

การบูรณาการเข้ากับแอพอื่นก็ง่ายมาก เพราะ KORG เป็นผู้ริเริ่มระบบ WRIS ที่หากเรามี iMS20 หร
ือ iElectribe หรือแอพดนตรีใดๆ ที่สนับสนุน WRIS รันอยู่บน iPad อีกเครื่อง เราจะสามารถเปิดเล่นไปพร้อมๆ กันได้ DJ ที่ชอบความหวือหวาอาจนำอุปกรณ์เหล่านี้ไปเล่นพร้อมกันได้เลย

KORG ยังใส่ระบบ AudioCopy ที่ให้เราทำสำเนามิกซ์ของเรา ไปแปะกับโปรแกรมทำเพลงอื่นๆ บนเครื่องเดียวกันได้ทันทีด้วย

การส่งงานออกก็สามารถทำได้สองวิธีคือ Export ออกมาตามปกติ แล้วใช้ iTunes ดึงออกมาได้ หรืออัพโหลดขึ้น SoundCloud ได้ทันที ซึ่งยอมรับว่า KORG คิดมาดีในเรื่องนี้ คือเลือกให้มี Feature อะไรบ้าง หรือตัดอะไรออกไปบ้าง

iKaossilator เป็นอีกหนึ่งแอพดนตรีระดับ 5 ดาว ที่เล่นได้ตั้งแต่เด็กทารก (โปรดระวังมือถือจะหล่นใส่ตัวเด็ก) ไปจนถึงมืออาชีพ เพราะแม้มันจะเป็นเครื่องดนตรีกึ่งสำเร็จรูป แต่มันก็เล่นสนุก ให้แรงบันดาลใจในทุกที่ทุกเวลาครับ

โปรโมชั่นครึ่งราคายังมีอยู่ถึงสิ้นเดือนนี้ ดังนั้นถ้าชอบแนวนี้แนะนำให้รีบหน่อยนะครับ ;D