มิกเซอร์ + USB Interface มันก็คือซาวน์การ์ดที่มีฟังก์ชัน Mixer ดี ๆ นี่เองครับ และจะดีแค่ไหน หากเราได้ซอฟต์แวร์ Cubase แถมมาด้วย…? Yamaha ใช้ประโยชน์จากการซื้อ Steinberg เมื่อ 2 ปีก่อนได้คุ้มค่ามากครับ เมื่อออก MW Series II ในราคาที่น่าจะทำให้เราตัดสินใจได้ไม่ยาก

MW Series นี้มี Onboard FX (ยกเว้นรุ่น MW10C) ระบบ Routing ทีดีกว่า Audio Interface ทั่วไป (ก็เป็น Mixer นิ!) แถมยังบูรณาการกับ Cubase AI4 เน้น ๆ ที่น่าสนใจคือระบบ 1 Knob Analog Compressor ครับ (น่าจะได้แรงบันดาลใจมาจาก SSL) เราน่าจะได้เสียงที่เป็นเอกลักษณ์จากมันด้วย เราลองมาจำแนกรายละเอียดกันครับ

รุ่น MW8CX มี 8 อินพุท 4 พรีแอมป์ และดิจิตอลมัลติเอฟเฟกต์อย่าง Reverb, Delay, Modulation, Distortion ฯลฯ ควบคุมพารามิเตอร์ต่าง ๆ ผ่านหน้าปุ่มบนพาเนลได้เลย

รุ่น MW10C เพิ่ม Stereo Input แต่ไม่มี Onboard FX

ส่วนรุ่น MW12C MW12CX จะมีความแตกต่างอยู่ที่ มีกับไม่มี Onboard FX เช่นกันครับ ส่วนรายละเอียดของอินพุทเท่ากันคือ 12 ช่อง แบ่งออกเป็น 4 Mic/Line และ 4 Stereo Line

สำหรับ Cubase AI4 แม้จะเป็นรุ่น Cut Down มาจาก Cubase 4 แต่เราก็สามารถรันได้ถึง 48 Audio Tracks 64 MIDI Tracks พร้อม Plugin อีกจำนวนหนึ่ง และสนับสนุน VST เติมรูปแบบ กรณีที่เรามี VST จำนวนมากอยู่แล้ว และที่สำคัญคือใช้กันร่วมกับ MW Series II ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพครับ เพราะออกแบบมาเพื่อสนับสนุนกันและกันอยู่แล้ว

สำหรับราคาก็

  • $249.99 (MW10C)
  • $329.99 (MW8CX)
  • $399.99 (MW12C)
  • $449.99 (MX12CX)

รายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.yamaha.com
ที่มา SonicState

Update: พอดีไปเจอข่าวของ N Series ครับ เป็น Firewire Mixer
SNAMM07: Yamaha Ships Digital Mixing Studios
N12

จุดเด่นที่เห็น Yamaha ยกมาคือ Effect ต่าง ๆ รวมไปถึง Preamp ที่น่าจะมีคุณภาพดีกว่า MW Series มีให้เลือกสองรุ่นคือ N12-N8 ความแตกต่างอยู่ที่จำนวนช่องสัญญาณตามรหัสรุ่นครับ

ระบบควบคุมต่าง ๆ ก็จะดีกว่าเช่นกัน อย่างการแยก Headphone Mix, Talkback, Monitor Speaker Selection และสนับสนุนการควบคุมกับ 5.1 Surround Sound

ส่วนการใช้กับ Cubase AI4 ก็จะมี Transport Control, Track Selection, Click Track On/Off, DAW Control Work Mode, Wet/Dry Monitoring, Project Tempaltes

ส่วนราคาอยู่ที่ $1,099 (n8) – $1,599 (n12) ครับ