เป็นคำถามที่ผมบังเอิญไปพบที่ห้องหว้ากอ เว็บ Pantip ซึ่งหลังจากที่อ่านแค่คำถาม ผู้เขียนก็คิดในใจแบบไม่ตรึกตรองว่า “มี” เป็นมุมมองจากแหล่งกำเนิดเสียง ที่ไม่จำเป็นต้องมาจากสัตว์เสมอไป แต่หากเราพิจารณาถึงผู้รับรู้เสียงแล้ว คำตอบคือ “ไม่มี” ครับ เนื่องจากเสียงเป็นการสร้างสรรค์จากระบบประสาทสัมผัสของผู้รับซึ่งเป็นสัตว์เท่านั้น “ไม่มีสัตว์ จึงไม่มีเสียง” เพราะคลื่นในอากาศมันก็เป็นเพียงคลื่นชนิดหนึ่ง เช่นเดียวกับแสง มันต้องการสิ่งมีชีวิตมาระบุว่ามันคือเสียงหรือแสง ขอยกคำตอบอย่างละเอียดของคุณปัจจตังมา ณ ที่นี่ด้วยครับ

ไม่มีครับ
คำถามนี้ นีล บอร์ห เคยถามไอน์สไตน์  ตอนแรกไอน์สไตน์ก็ตอบว่ามี เพราะถึงไม่มีมนุษย์ เสียงมันก็มีอยู่ก่อนแล้ว  นีล บอร์ห บอกผิด เกิดการถกเถียงกันอย่างรุนแรง  แต่หลังจากนั้น ไอน์สไตน์กลับไปครุ่นคิดอยู่หกเดือน แล้วก็กลับมาขอโทษ ที่เข้าใจผิด
ชีวิต โลก และ เวลา คือสิ่งเดียวกันครับ  ไม่มีสิ่งใดเป็นจริงเลย ทฤษฎีสัมพัทธภาพก็บอกเช่นนั้น  ก่อนมีทฤษฎีนี้เชื่อกันว่า ถ้าสิ่งมีชีวิตทุกสิ่งทุกอย่างพากันสูญหายไปจากจักรวาล ก็จะเหลือแต่เวลาและห้วงอวกาศอันเวิ้งว้าง แต่จากทฤษฎีสัมพัทธภาพ พิสูจน์ได้อย่างแน่ชัดว่า เวลา และห้วงอวกาศอันเวิ้งว้างก็จะหายไปด้วย (ก็คือไม่มีอะไรอยู่จริงเลย)
ถ้าจะถามว่า เกิดไม่มีสัตว์ ไม่มีมนุษย์เกิดมาบนโลกนี้เลย ถามว่า กลิ่น จะมีอยู่จริงหรือไม่
คำตอบก็เหมือนเสียง คือไม่มี  ที่มันมีก็เพราะการสรรสร้างของระบบประสาทสัมผัส
ทุกอย่างเป็นปรมัตถ์  รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ล้วนเป็นสมมติบัญญัติ ความจริงแท้ของจักรวาลไม่มีสิ่งเหล่านี้
ในความฝัน เราก็ได้ยินเสียง ได้กลิ่น ได้สัมผัส ทั้งๆที่มันก็ไม่มีอยู่จริง แต่ทำไมเรารู้สึกได้เหมือนจริง
เรื่องนี้จะเข้าใจยากสักนิด แต่เมื่อใดที่เกิดปัญญาญาน จะเข้าใจด้วยตนเองอย่างถ่องแท้

ปัจจตัง

 

ให้คำตอบที่ดีทีเดียว สิ่งเดียวที่ผมไม่เห็นด้วยกับคุณปัจจตังก็คือ เรื่องนี้ไม่ได้เข้าใจยากเลย แค่เรามองปัญหาไปที่ “ผู้รับเสียง” แทนที่จะมองว่าเสียงเกิดขึ้นได้อย่างไร…เท่านั้นเองครับ