เป็นธรรมดาที่ช่วงส่งท้ายปีที่บรรดาสื่อต่าง ๆ ได้ทำการรวบรวมสถิตต่าง ๆ ทั้งในด้านดี ด้านเสียของแต่ละวงการ ลองมาดู mp3newswire ประกาศรายชื่อผู้ชนะ ผู้แพ้ในโลกของ Digital Media ดูบ้าง

ผู้ชนะพาเลซกันมาตั้งแต่พวกเว็บ 2.0 อย่าง YouTube.com-MySpace ที่ถูกอากู๋ซื้อ เรียบร้อยโรงเรียน Google รวมทั้งไฟล์แชร์ริ่งอย่าง BitTorrent/Azureus รวมทั้งเว็บแทรคเกอร์สัญญาณชาติสวีเดนอย่าง Pirate Bay ที่ต่อสู้กับกฏหมายอย่างหนักและกลับมาอย่างสง่าผ่าเผย รวมไปถึง Apple ที่ดวงขึ้นอย่างมาก ๆ ในช่วงปีที่ผ่านมา ทั้งยอดขาย ipod และเพลง+หนังผ่าน iTunes ก็วิ่งกระฉูด ในปีหน้าก็จะมีโปรเจกต์ใหม่ ๆ อย่าง Wireless Set Top Box สำหรับชมรายการทีวีของ iTV (อันนี้บ้านเราไม่เกี่ยว) รวมไปถึงการดีลกับสายการบินต่าง ๆ เพื่อให้ที่นั่งแต่ละที่มี iPod Dock ซึ่งมาตรฐานของ iPod กำลังล้ำหน้าผู้ผลิตรายอื่นไปเรื่อย ๆ ที่ตลกเล็ก ๆ คือ Creative ผู้ซึ่งชนะคดีสิทธิบัตรของ iPod ได้เศษตังค์จาก Apple ไป $100 ล้าน ก็ติดรายชื่อเป็นผู้ชนะกับเค้าด้วย

และสำหรับนักดนตรีแนว ๆ ก็ต้องร่วมแสดงความยินดีกับ DJ Danger Mouse (Brian Burton) ผลงานของเค้าในปี 2004 อย่าง Gray Album (งานรีมิกซ์ระหว่าง Black Album ของ Jay-Z กับ White Album ของ The Beatle) ซึ่งทาง EMI ผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์พยายามที่จะหยุดยั้งการเผยแพร่ แต่ก็ต้องแพ้อิทธิพลของอินเตอร์เนตไป ส่งผลให้เค้าเคยติดรายชื่อเป็นผู้ชนะในปี 2004 ไปก่อนแล้ว และในปีนี้เอง ผลงานที่เค้าทำร่วมกับ Gnarls Barkley อย่าง Crazy ก็เป็นเพลงแรกที่ขึ้นอันดับหนึ่งของทาง UK ที่ขายผ่านการดาวน์โหลดเพียงอย่างเดียว และติดอันดับสองบนชาร์ทของทาง US อีกต่างหาก ส่งผลทำให้เค้าเป็นศิลปินคนแรก ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงโดยใช้อินเตอร์เนตเป็นช่องทางโปรโมทแต่เพียงอย่างเดียว

ส่วนทางด้านผู้แพ้นั้นมีประเดนหน้าสนใจคือบรรดาสิ่งที่ทำมาเพื่อความถูกต้อง (ในมุมมองของคนขายเพลง) อย่าง Sharman Networks-Captain Copyright-Digital Rights Management (DRM) รวมไปถึงระบบ Antipiracy ของทาง Sony ที่ครั้งนึงเคยเป็นความหวังอันริบหรี่ของทางค่ายเพลง เพราะมันทำมาเพื่อป้องกันการแชร์ไฟล์ แต่กลับกลายเป็นสร้างปัญหาให้กับลูกค้านักฟังเพลงมากยิ่งกว่า  ซ้ำยังถูกเหล่าแฮกเกอร์พากันแฮกค์จนไม่เหลือความขลังอีกต่อไป แม้วันนี้มันจะยังอยู่ แต่ก็เป็นกรณีศึกษาไว้ว่า นักฟังเพลงอย่างเรา ๆ ไม่ชอบมัน และไม่ต้องการให้มันมีอยู่อีกต่อไป

ที่น่าสงสารที่สุดคือ Sony เพราะนอกจากจะแพ้คดีเรื่องซอฟต์แวร์ Antipiracy ใน CD ของ Sony BMG โดนปรับไปกว่า $1.4 ล้านแล้ว ยังมีปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ ต้องเปลี่ยนใหม่ให้กับลูกค้า มูลค่ากว่าพันล้าน ซ้ำร้าย Blu-Ray ที่ Sony ผลักดันมาตั้งแต่ต้น ถูกรวมอยู่ในกลุ่มผู้พ่ายแพ้ด้วย พร้อม ๆ กับทาง HD-DVD ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลานับปีกว่าที่เหล่าผู้บริโภคทยอยเปลี่ยนไปใช้กันเยอะขึ้น

ที่น่าตลกสำหรับนักดนตรีคือ OLGA – Online Guitar Tablature Archive ก็จัดอยู่ในกลุ่มผู้พ่ายแพ้ เนื่องจากการปิดตัวไปอีกครั้งเพราะบรรดาค่ายเพลง ที่ว่าตลกก็เพราะว่าหากเรามองดูโปรเกรสชั่นของคอร์ดของเพลงฮิต ๆ ส่วนใหญ่ รวมไป 95% ของเพลงร็อคจะใช้คอร์ดสามัญไม่เกิน 3 คอร์ดหรืออย่างมากก็ 5-6 คอร์ดแค่นั้น แต่ถ้าเหล่านำมันมาเผยแพร่บนอินเตอร์เนต เราก็ต้องจ่ายเงินให้กับเจ้าของลิขสิทธ์เพลงด้วย ท่านผู้อ่านว่ามันตลกสิ้นดีไหมล่ะครับ..?

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ mp3newswire